วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563

แค่ได้แอบฝันก็มากเกินพอ

คุณเคยรู้สึกว่าเมื่อคุณเจอใครคนนั้น เหมือนคุณเคยเจอเขาอยู่ในความฝันของคุณมานานแสนนาน คุณมีความสุขที่ได้ฝันถึงเขา แม้จะรู้ว่าเมื่อใดคุณลืมตามาพบโลกแห่งความจริงคุณอาจจะต้องเจ็บปวดเพราะคุณไม่มีวันที่จะได้ใกล้ชิดเขา แต่คุณไม่เคยเสียใจ..แค่ได้แอบฝันก็มากเกินพอ

บัวชมพูเดินผ่านชายร่างสูงสวมชุดสูทมาดนักธุรกิจนาม..สิรภพ พงศภัค นักธุรกิจที่คว่ำหวอดอยู่ในวงการตลาดหลักทรัพย์มาหลายปี
..เขามาทวงสิทธิ์ สิทธิ์ของความเป็นเจ้าของห้องชุดสุดหรูกลางกรุง ย่านธุรกิจห้างร้านและสถานบันเทิง
บัวชมพูต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการรักษาสภาพการณ์ให้เป็นไปอย่างปกติ เธอแอบสูดหายใจเข้าลึกเมื่อผ่านร่างนั้นมาหยุดยืนบริเวณครัวเล็ก ๆ มีโต๊ะสีขาวยาวคล้ายกันวางชิดเป็นรูปตัวแอล มุมนี้เธอใช้ฝึกปรือฝีมือการจัดแต่งอาหารทุกวัน

และแล้วเสียงทุ้มน่าฟังไม่ดุดันอย่างที่คิดก็ทำลายบรรยากาศอันแสนอึดอัด
"ฉันคงไม่ต้องแนะนำตัว และคงไม่ต้องบอกว่าฉันเข้ามารอเธอในห้องได้อย่างไร"
สิรภพออกจะทึ่งในการเก็บอารมณ์ของอีกฝ่าย เขาคิดว่าบัวชมพูเมื่อเห็นเขาอยู่ในห้องนี้อย่างไม่คาดหมายมาก่อนจะมีอาการตื่นตระหนก แต่นี่ หญิงสาวร่างบาง ไม่สิ ถึงบัวชมพูจะดูผอม แต่ก็มีเนื้อมีหนัง ยังผิวสีชมพูที่ดูงามตาอีกเล่า ส่งให้เรือนร่างของหญิงสาวเป็นที่ติดตาต้องใจใครต่อใครได้ไม่ยาก
ศรุตส่งอีเมลล์ถึงเขาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวที่เขาประทับใจและแอบรักอยู่ข้างเดียวบ่อย ๆ ความห่วงหาอาทรระหว่างน้องชายกับเขามักส่งถึงกันทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมาชีวิตของเขาผูกติดอยู่กับงาน ความห่างเหินในความเป็นอยู่ระหว่างพี่น้องจึงกว้างขึ้นทุกที มีเพียงความคิดถึงที่ผุดขึ้นมาทุกคราในหัวใจ
"ค่ะ "แม้จะเป็นเสียงที่แผ่วผ่านมาถึงคนข้างหลังทว่าแฝงด้วยความหนักแน่น อาจจะด้วยว่าเจ้าของเสียงนึกคำนึงสถานภาพของตนตลอดเวลา
แน่นอน บัวชมพูย่อมรู้ถึงสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอเตรียมใจ เธอพร่ำพร้อมและรอคอยที่จะคืนให้
เขายังคงอยู่อากัปกิริยาเดิม นิ่งสงบเอียงตัวอิงกับขอบกระจกใสที่เปิดออกรับลมระเบียง ภายนอกสามารถมองเห็นบริเวณทางเข้าออกของอาคารอย่างชัดเจน
มือเรียวหยิบจับสิ่งของออกจากถุงกระดาษที่เธอเพิ่งจับจ่ายมาจากห้างสรรพสินค้าใกล้มหาลัยฯ สินค้าหลากหลายและความคุ้นเคยทำให้เธอและศรุตชอบที่จะเดินเตร็ดเตร่ซื้อของก่อนจะกลับเข้าห้องพัก มือที่ควานหาของลงไปถึงก้นถุงกลับรู้สึกใจหาย หลายวันมานี้ปริมาณสิ่งของในถุงน้อยลงกว่าครึ่ง!
"ห้องนี้เป็นห้องที่ฉันซื้อไว้ให้ผู้บริหารระดับสูงจากต่างประเทศมาพัก ต่อเมื่อศรุตขอใช้เป็นห้องพักชั่วคราวฉันก็อนุญาต แต่ตอนนี้..."เขาพูดค้างไว้เพราะต้องกล้ำกลืนความขมขื่นใจลงไป ก่อนจะกล่าวคำนั้นออกมา"เขาไม่อยู่แล้ว ฉะนั้นห้องนี้สมควรจะปิด.."
น้ำเสียงทอดท้ายคล้ายสะดุดนิด ๆ แต่นั่นก็ทำให้ผู้ที่ยืนหันหลังแทบหยุดหายใจฟัง
"แต่นายรุตขอร้องให้เธอได้ใช้ห้องนี้ต่อจนกว่าจะจบภาคฤดูหน้า นั่นคือเธอสามารถอยู่ที่นี่ได้อีกหนึ่งปี"เขาหยุดคิดหาคำพูดชั่วอึดใจก่อนจะพูดมันออกมา"และเขาขอร้องให้ฉันดูแลเธอต่อจากเขา"
เมื่อพูดออกไปแล้วสิริภพก็แทบจะถอนใจออกมายาว ๆ ด้วยความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอยู่นานทำให้เขาเกือบจะเผยความประหม่า
ให้ตายสิ !เขารู้สึกตื่นเต้นราวกับหนุ่มน้อยกำลังสารภาพรักกับหญิงสาว และอันที่จริงถ้อยคำสุดท้ายเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อน